![]() |
|
เมนูหลัก
การบริหารราชการจังหวัด
ระบบฐานข้อมูล
ข้อมูล/สถิติ น่ารู้
สนับสนุนการปฏิบัติราชการ
คุณธรรมและความโปร่งใส
![]() |
![]() |
ความทรงจำเมื่อปลายฝน..บนเมืองในสายหมอกความทรงจำเมื่อปลายฝน..บนเมืองในสายหมอก “ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธอผอมไปหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง.....” เสียงเพลง “เล่าสู่กันฟัง” แว่วมาให้ได้ยินทางรายการวิทยุในวันฝนพรำ ทำให้หวนนึกถึงวันนี้ของปีที่ผ่านมา... ช่วงปลายฝนปีนั้น ช่างเป็นความทรงจำที่แสนประทับใจอย่างไม่รู้ลืม ถึงแม้ว่าในวันนี้ คนที่เคยอยู่ข้างกายในวันนั้น จะไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนวันเก่าแล้วก็ตาม... โดยทั่วไปแล้ว ใครๆ ต่างก็นิยมกันเที่ยวแอ่วเหนือขึ้นดอยกันในช่วงปลายปีในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าอากาศดีสุด ๆ และจะได้ชมภูมิทัศน์ที่สวยสุด ๆ เช่นกัน แต่การตัดสินใจไปเที่ยวเหนือของผมในครั้งนั้นเป็นช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดพักผ่อนประจำปีพอดี โดยผมกับเพื่อนคนสนิทเราวางแผนกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวที่ “เมืองในหมอก..ที่ใคร ๆ ก็ฝันถึง” อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยที่ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกับภาพความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืมเช่นนี้ เพราะการไปเที่ยวในหน้าฝนนั้นใคร ๆ ต่างคิดกันว่าทั้งลำบาก หาความสวยงาม บรรยากาศความน่าเที่ยวน้อยกว่าหน้าหนาวแน่นอน ซึ่งในตอนแรกผมเองก็คิดเช่นนั้น... เราตกลงเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยใช้เวลาพักค้างคืนที่เชียงใหม่ 1 คืน และออกเดินทางต่อไปที่ปายในเช้าตรู่ของอีกวัน ด้วยความที่เป็นรถยนต์ส่วนตัวจึงทำให้เราสามารถแวะดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามได้ตลอดการเดินทาง ถึงปายช่วงบ่าย ๆ ของวันที่ 2 เราหาที่พักง่ายมากแถมได้ราคาบ้านพักระดับค่อนข้างหรูในราคาคืนละเพียง 400 บาท เนื่องจากไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) เราได้สัมผัสกับภาพความงามของธรรมชาติท่ามกลางสายฝนปนสายหมอก ทั้งวัดพระธาตุแม่เย็น น้ำตกผาเสื่อ บ่อน้ำร้อนเมืองแปง ไปจนถึงอุทธยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง รวมทั้งที่อื่น ๆ ซึ่งยังคงอยู่ในความทรงจำ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาเป็นช่วง ๆ ของวัน ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูเขียวสดชื่นกว่าการเที่ยวครั้งไหน ๆ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความสวยงามอันน่าจดจำของการเที่ยวช่วงปลายฝนนี้คือเราได้ความเป็นส่วนตัวในการเที่ยวสูงมาก เพราะแทบไม่เจอนักท่องเที่ยวหรือกรุ๊ปทัวร์มารบกวน มีเพียงชาวพื้นเมืองและนักศึกษาอีก 2-3 คนที่มาเที่ยวในช่วงเดียวกัน ดังนั้นทุกที่ที่ปาย เราจะได้สัมผัสเสียงธรรมชาติที่แท้จริง ทั้งลำธารไหล ลมโชย จั๊กจั่น นกร้อง ให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติที่แท้จริง เราตกลงค้างคืนที่ปายกัน 2 คืน และออกเดินทางกลับในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 4 ตลอดเส้นทางถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกและโปรยปรายมาด้วยละอองสายฝน การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ทำให้ได้สัมผัสกับความสวยงามแบบธรรมชาติที่หาดูได้ยากเช่นนี้ ทำให้เกิดเป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม จนลบความคิดเดิม ๆ ของผมที่ว่าการเที่ยวเมืองเหนือจะต้องไปหน้าหนาวเท่านั้น.. เพราะเที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้ จริง ๆ ด้วยครับ วันนี้..มองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนยังคงโปรยปรายมาเป็นช่วง ๆ กลิ่นไอของความหอมจากพื้นดินโชยเข้ามา วันผ่าน เวลาเปลี่ยนไป ใจก็เฝ้านึกถึงใครบางคน คนที่วันนั้นเคยไปเที่ยวที่เมืองในสายหมอกเมื่อปลายฝนครั้งนั้นด้วยกัน ซึ่งวันนี้ไม่มีเขาอยู่ข้างกายเหมือนในวันนั้น....แต่ทุกครั้งที่บทเพลงนี้แว่วมาให้ได้ยิน ภาพความทรงจำดี ๆ ที่เคยมีร่วมกันในวันนั้นก็หวนกลับมาให้นึกถึงอยู่เสมอ “ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธอผอมไปหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง.....”
ที่มา : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Link : http://thai.tourismthailand.org/interesting-article/content-839.html เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง |